ทักษะที่ไม่คิดว่าจะมีประโยชน์มากขนาดนี้ ! ใช่ครับฟังไม่ผิดหร่อก …
สงสัยไหมทำไมต้องเรียน ??
ก่อนที่จะเล่าว่ามันคืออะไรต้องขอเกริ่นก่อนว่า
ตัวบอยด์เองก็มีเวปไซต์ร้างๆเวปนึง ที่ไม่ได้อัพเดทมานานมากๆ
ใช่ครับ มันคือเวปไซต์ที่เพื่อนๆกำลังอ่านอยู่นี่เอง
บอยด์เคยคิดว่าจริงๆเวปไซต์ใครๆก็เขียนได้ ซึ่งนั่นมันก็จริง ไม่เถียง
แต่คำถามคือเราจะทำเวปไซต์เราให้มันมี Imapct ได้อย่างไร
บอยด์คิดว่านี่คือคำถามง่ายๆเลย ที่บางทีเราหาคำตอบได้ยาก
บางครั้งบอยด์ก็คิดว่ามันเป็นเพราะโชค
หรือภาษาบ้านๆเรียกว่าฟลุ๊กป่ะวะ …
บางบทความก็ตั้งใจเขียนนะ ทำไมไม่มีคนอ่าน ?
บางบทความอาจจะไม่ได้ตั้งใจเขียนมากนักแต่คนแชร์กระจาย
มันต้องมีความลับอยู่แน่นอน ….
วันนี้บอยด์จึงได้โอกาสมาลองเข้าคลาส Web For Imapct รุ่นที่ 4
ซึ่งสอนโดยพี่ทอย DataRockie คนดีย์คนเดิม !
แล้วเดี๋ยวมาดูผลกันนะว่ามันจะช่วยบอยด์ได้มากน้อยแค่ไหน
แต่ถ้าอยากรู้ว่าช่วยยังไงบ้างไปลองอ่านเพิ่มกันต่อเลย
Web For Impact คืออะไรวะ ??
มาถึงคำว่า Web For Impact !?
ซึ่งบอยด์เองก็ยังไม่รู้ความหมายหร่อกนะว่ามันหมายถึงอะไร
แต่พอได้เข้าคลาสเรียนแล้ว คีย์เวิร์ดที่สำคัญจริงๆ
คือคำว่า “Impact”
Impact ที่ว่าคือเมื่อเราเขียนบทความแล้ว
บทความของเรามันส่งผลต่อคนอื่นๆอย่างมากนั่นเอง
ไม่ว่าจะเป็นคนแชร์มากขึ้น คน Comment มากขึ้น
และแน่นอนมีหลายคนได้ประโยชน์จากบทความเรามากขึ้นนั่นเอง
สมัยก่อนเวลาบอยด์เขียนบทความไม่ว่าจะลงในเพจ
หรือว่าลงในเวปไซต์ก็ตามที
เรามักจะไม่ได้คิดถึงกลุ่มคนที่เราจะเขียนให้เค้าอ่าน
เรามักจะเริ่มต้นจากการเขียนให้เราเองเข้าใจก่อน
หรือเริ่มจากเรื่องที่เราชอบเสมอ
ซึ่งมันไม่ได้ผิดเลย
แต่บางทีมันก็ยากที่จะทำให้คนอื่นๆมาชอบในเรื่องที่เราเขียน ใช่ไหมล่ะ !?
แล้วเราจะเริ่มเขียนอย่างไรดีล่ะ
ง่ายๆ เลยเราอาจจะเริ่มจากการคิดก่อนว่าใครเป็นผู้อ่านบทความของเรา
เราต้องการให้ใครมาอ่านล่ะ
ซึ่งถ้าเรื่องที่เราเขียนมันเป็นเรื่องเข้าใจยาก
หรือน้อยคนที่สนใจในเรื่องที่เราชอบ
มันก็ยากที่จะมีคนมาอ่านใช่ไหม !
เพราะเรื่องที่เราสนใจบางทีจำนวนคนที่สนใจเหมือนกับเราก็ไม่ได้มีเยอะมาก
และบางเรื่องก็ยากที่จะเข้าถึงนั่นเอง
ถ้างั้นทำอย่างไรให้คนสนใจเยอะๆดีล่ะ ?
1. ลองเริ่มจากเนื้อหาที่เข้าถึงคนได้ง่ายก่อนไหม
2. ลองเช็คเนื้อหา ว่ามีใครเคยเขียนมาแล้วหรือยัง1
3. เขียนให้ ดีกว่า คนอื่นที่เคยเขียน !
ฟังดูเหมือนง่ายดีเนาะ แต่ส่วนที่ยากที่สุดมันคือข้อที่ 3 นี่แหละ !
ทำอย่างไรเราถึงจะมีทักษะการเขียนได้ ดีย์
บอยด์เองก็ไม่ได้เป็นนักเขียนบทความที่ดีย์นัก
แต่ก็เป็นหนึ่งคนที่เหมือนเพื่อนๆทุกคน
ที่พยายามฝึกฝนทักษะการเขียนเช่นกัน
คำถามคือเราจะเริ่มต้นฝึกฝนได้อย่างไร
อย่างที่บอกกับเพื่อนๆไปสำคัญเลยคือเรื่องของ Audience
หรือภาพของคนที่เราอยากเขียนให้พวกเขาได้อ่าน
ต่อมาคงเป็นเรื่องของ การอ่าน
ใช่ครับ ยิ่งเราอ่านเยอะเรายิ่งเขียนได้ดีขึ้น
ก่อนเริ่มลงมือเขียนเราลองค้นหาก่อนไหม
ว่ามีใครที่เขียนบทความเราแล้วบ้าง
แล้วเราจะเพิ่มคุณค่าจากบทความเหล่านั้นได้ในจุดไหนบ้าง
สิ่งต่อมาสำคัญมากๆคือเรื่อง สไตล์การเขียน
เคยไหมเราอ่านบทความบางบทความ
แล้วเราก็รู้ได้ทันทีว่าใครเป็นคนเขียน
หรือแค่เห็นภาพๆนี้ก็รู้เลยว่าใครเป็นคนถ่าย หรือใครสร้าง
สิ่งเหล่านี้ต้องค่อยๆสร้างไปเรื่อยๆ
ลองเริ่มจากเช็คตัวเราเองก่อนก็ได้ครับ
ว่าอะไรคือจุดเด่น หรือจุดขายของเรา
ถ้าเรานึกไม่ออก ลองถามเพื่อนสนิทเราดู
เวลามันเห็นเราแล้วนึกถึงอะไร
นั่นแหละครับช่วยสะท้อนตัวตนเราได้ดียิ่งขึ้น
ต้องบอกว่าทักษะการเขียนให้ดีย์ขึ้น รวมไปถึง
การสร้าง Impact บนเวปไซต์ของเรายังมีอีกหลายประเด็นมากๆ
และโพสนี้ก็เหมือนเป็นรีวิวส่วนหนึ่งที่บอยด์ได้รับประสบการณ์มาบางส่วน
บอยด์คงไม่สามารถทำให้ทุกคนเก่งขึ้นได้
แต่บอยด์คิดว่าอย่างน้อยบทความนี้น่าช่วยจุดประกายให้เพื่อนๆได้
อย่างน้อยๆก็มาเริ่มต้นฝึกฝนการเขียน และสร้าง Impact ไปด้วยกัน
ถ้าโพสนี้ช่วยจุดประกายเพื่อนๆให้ลองเริ่มต้นสร้าง Impact
ก็ไปตำพี่ทอยได้ที่ Facebook แฟนเพจ DataRockie กันได้เลยครัช
มาฝึกฝนทักษะการเขียนไปด้วยกันนะครับ
またね 〜